เกาหลี 5 วัน 3 คืน ราคาประหยัด สนุก ครบรส อิ่ม อร่อย วันที่ 1

02:18

สวัสดีค่ะ วันนี้อั้มมาเขียนประสบการณ์เที่ยวต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตให้ชมกัน ไปครั้งนี้ ไม่ได้ไปคนเดียวนะคะ พาน้อง พาแม่ พาแฟน ไปเที่ยวกันด้วย ซึ่งแต่ละคน ได้ภาษาอ่อนมาก แม่นี่ไม่ได้เลย จึงตัดใจไปครั้งแรกเลยใช้บริการทัวร์ค่ะ พอใช้บริการทัวร์นี้ตอนแรกไม่คิดว่า จะดีแบบนี้นะคะ คือคิด ทำใจไว้แต่แรกแล้ว คงไม่สนุกเท่าไหร่ ไปแบบขอให้เข้าได้ ขอให้เที่ยวแบบไม่หลงก็พอ เพราะสืบประวัติชาวเกาหลีมาแล้วก็ ไม่ค่อยน่าไปเองสักเท่าไหร่ พอไปกับทัวร์ ทำให้ได้รู้รายละเอียดหลาย ๆ อย่าง พร้อมทั้งข้อมูลสถานที่แต่ละที่ ที่เราไปด้วยค่ะ

ถามแม่ แม่ก็ชอบสนุก น้องก็ชอบ คิดแล้วก็อยากจะไปอีกสักรอบ อั้มไปช่วงเดือนเมษายน นะคะ อากาศเย็น ๆ สบาย ๆ ชิวมาก ๆ แม่บอกชอบอากาศที่นี่ พวกเราก็ชอบกันมาก ตอนมืดหนาวมาก หนาวแบบสุด ๆ แต่เป็นอะไรที่ครอบครัวเราชอบมาก

5 วัน 3 คืน ไปที่ไหนบ้าง ? จริง ๆ เราเที่ยวแค่ 3 วันเต็ม ๆ นะคะ อีก 2 วัน คือการเดินทาง 

  1. เดินทางจากกรุงเทพ สู่สนามบินอินชอน
  2. หมู่บ้านโพรวองซ์ (La Provence) , Paju Outlet , เกาะนามิ , วัดวาวูจองซา
  3. กิมจิแลนด์ , สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ , Seoul Tower , ชอปปิ้งตลาดทงแดมุน
  4. ศูนย์โสมรัฐบาล , ศูนย์สมุนไพรฮ็อกเกตนามู , Cosmetic Shop , บลูเฮาส์ , พระราชวังเคียงป็อค , พิพิธภัณฑ์พื้นเมือง , Red Pine , คลองชองเกซอน , ช็อปปิ้งเมียงดง , Fanta Stick Show or Drum Cat Show
  5. Super Market บินกลับกรุงเทพ

ตอนจองอั้มก็โทรไปสอบถามก่อนค่ะ เพราะแรก ๆ มีข่าวเรื่อง ไม่ให้บินเข้าประเทศเกาหลี แต่ทางพี่เขาบอกไปได้แน่นอน เพราะจะไปกับ Airasia X เราก็หาข้อมูลก็สรุปว่าไปได้จริงค่ะ เราก็โอนเงินและทำการจองเรียบร้อย ใกล้ถึงวันเดินทาง ก็จะมีพี่คนที่เขาจะเป็นไกด์คนไทยไปกับเรา ตั้งแต่สนามบิน และอยู่ที่เกาหลี จนเดินทางกลับมาพร้อมกับเราค่ะ โทรมานัดเวลา และแนะนำข้อมูลต่าง ๆ ให้เรา ตอนนี้แหละถามข้อมูลหนักมาก เพราะกลัวไปหมด ไม่เคยไปเกาหลี และเรื่อง ตม ก็เรื่องใหญ่ เป็นกะเทยไม่ได้เข้าง่ายอีก ตาย ๆ ทำไงดีละ ก็เม้าส์มอยเยอะมากค่ะ คุยกันเป็นชั่วโมง พี่เขาใจดีมากเลย คุยดีมาก ๆ ไม่บ่นไม่ว่าอะไร แนะนำดีมาก พี่ไกด์ชื่อ พี่กบ หลาย ๆ คนที่ไปเกาหลีกับทัวร์ อาจเคยเจอกับพี่เขามาบ้างแล้วก็ได้

นัดเจอกันที่สนามบินดอนเมือง พอไปถึงพี่เขาก็จะยืนถือป้ายรอแล้วค่ะ เราก็เดินไปหาเขาเลยและเขาก็ให้กรอกเอกสารเตรียมพร้อม สักพักก็ได้เช็คอิน ตลอดเวลาพี่เขาช่วยเหลือตลอดนะคะ จนผ่าน ตม ไทย นั่งเครื่อง ถึงอินชอน ก็เป็นจุดที่น่ากลัวสุดแล้วค่ะ ตม. เกาหลี คนต่อแถวเยอะมาก ๆ เรามา 4 คนเครียดมาก กลัวจะไม่ได้เข้า กลัวแม่ กลัวน้อง กลัวตัวเอง กลัวแฟน เพราะคนก่อนหน้า แถวเรา โดนกันไปติด ๆ หลายคนมาก ไฟล์ที่ไปกับเรา โดนกักตัวเป็นร้อยคนเลยค่ะ แล้วคณะทัวร์เรา เหลือเดินทางกันไม่ถึง 20 คน จากตอนแรก สามสิบกว่าเลยค่ะ เพราะอะไรก็ไม่ทราบนะคะ แต่อั้มโดนถามเยอะมาก  

ตอนเข้าแถว อั้มไปคนแรก ยืนนานเลย ใจคอไม่ดี สักพักน้องก็ไปอีกช่องหนึ่ง เขาก็ถามน้อง น้องก็บอกมากับเรา อีคนที่ถามเราอยู่ ก็ถามว่าคนนั้นใคร ตอนแรกบอกไปว่า น้องสาว มันก็ยิ้ม เลยบอกว่า Family เขาก็ยิ้ม อีตานี่ยิ้มไรว่ะ ปกติคนเกาหลีไม่ค่อยยิ้มนี่ กูโดนแน่เลย ก็หยิบบัตรเครดิตออกมาให้เขาดู สักพักหันไป แม่ผ่านไปแล้ว น้องผ่านแล้ว แฟนผ่านแล้ว แทบร้องเลยค่ะ แต่ยิ้มตลอด ยิ้มสู้ค่ะ คนแรกนะฉันเนี่ย แต่ทำไมยังไม่เสร็จ สักพักเขาก็ปั๊มให้ ปากยิ้มแหกไปถึงหูเลยค่ะ อยากจะร้องดัง ๆ ครอบครัวเราผ่านหมด เตรียมพร้อมเที่ยวกันได้เลย


ขณะโหลดกระเป๋าเสร็จ ก็ยังไม่ได้ออกเดินทางน่ะ ต้องรอพวกที่ไม่ผ่าน ตม อีก รอเป็นชั่วโมงเลยค่ะ ทางทัวร์ไม่ได้ทิ้งนะคะ เขาก็ช่วยเหลือ  รอจนถึงเวลาที่ไม่ไหวแล้ว เพราะวันนี้เรามีเที่ยวกันหลายที่ ก็ออกเดินทางค่ะ (พี่ไกด์ เขาก็ไม่สามารถช่วยเราตอนโดน ตม. เรียกนะคะ เขาได้แค่ดูอยู่ห่าง ๆ )

วิธีเตรียมเอกสารของครอบครัวเรา ::
  1. อั้ม อาชีพ ฟรีแลนด์ :: เตรียมเงินสดไปเยอะ ๆ (เงินวอน) (เงินดอลล่า) บัตรเครดิตมี 3 ใบ  เอกสารการเข้าพัก ซึ่งทางพี่เขาจะให้เราตั้งแต่ตอนอยู่ดอนเมืองแล้ว เตรียมทุกอย่างให้พร้อม  (ได้กันทุกคน)
  2. น้อง นักศึกษา :: ให้ทางมหาลัยออกเอกสารรับรอง เป็นภาษาอังกฤษ , เงินวอน ติดตัวพอสมควร , บัตรนักศึกษา , เอกสารการเปลี่ยนชื่อ 
  3. แม่ (แม่บ้าน) :: แลกเงินสดให้แม่เยอะมากค่ะ กันไว้ก่อน  ของแม่เตรียมแค่นี้
  4. แฟน (วิศวกร) :: เตรียมเงินสดไปไม่เยอะ มีบัตรเครดิต 5 ใบ , หนังสือรับรองการทำงาน , นามบัตร , บัตรพนักงาน
แม่ แฟน น้อง เขาไม่ได้ขอดูเอกสารเลยค่ะ ผ่านง่ายมาก ยิ่งแฟนถึงหน้าตาจะเหมือนโจร หรือ แรงงานหลบหนีเข้าเมือง เขาก็ไม่ดู เขาแค่ดูในเอกสารที่เรากรอกตอนแรกว่า อาชีพอะไร ก็ผ่านเลยค่ะ มีอั้มคนเดียวโดนถามเยอะสุด แม่อั้มไม่โดนถามไรเลย ส่วนแฟน อาชีพดี เขาก็ไม่ตรวจไรเลยค่ะ แต่ควรเตรียมเอกสารไปให้พร้อมเผื่อโดนนะคะ

การแต่งกาย แนะนำให้แต่งกายเหมือนนักท่องเที่ยว สำหรับอั้มเอง มีกล้อง สะพายกระเป๋า สวมเสื้อผ้าแบบนักท่องเที่ยวที่จะมาเกาหลี ไม่จัดเต็มเว่อเกิน หรือ โทรมเกินไปค่ะ


รอคนติด ตม. กันนานพอสมควร จนได้ฤกษ์เดินทางมาที่แรก คือหมู่บ้านฝรั่งเศส โดยทางไกด์ที่พามาในทริปนี้ ก็นิสัยดีมากเลยค่ะ ช่วยเหลือทุกอย่าง แนะนำตลอดทริปเลย อะไรไม่ควรพลาด อะไรตรงไหนดี ไม่ดี คนเกาหลีมีวัฒนธรรมแบบไหน ห้ามทำอะไร คือชอบมาก มาเที่ยวแล้วเห็นแม่หัวเราะ ยิ้มตลอด มีความสุขดีค่ะ ตอนแรกกลัวแม่จะเหนื่อยมาก ๆ แต่แม่ชอบเราก็ดีใจ

หมู่บ้านนี้เดินทางมาไม่ไกลจากสนามบินมากนัก คือใช้เวลาไม่นานมาก ไกด์บอกวันนี้ฝนไม่ตก แต่ก่อนหน้านี้ฝนตกทุกวันเลย ทริปเราจะไม่เจอฝนเลยนะครับ ขอบอกว่า พยากรณ์อากาศเขาแม่นเว่อ ไม่เจอฝนเลยจริง ๆ ค่ะ เวลาของเกาหลี เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ไปแล้วก็ต้องปรับนาฬิกากันหน่อย แต่ไอโฟนปรับอัตโนมัติให้เลย เก๋ ๆ

หมู่บ้านโพรวองซ์ ตั้งอยู่เมืองพาจู จังหวัดคังวอน เมืองเล็ก ๆ ใกล้กรุงโซล บ้านที่นี่จะเน้นสีสันสดใส น่ารักเหมาะกับการถ่ายรูป อาหารแนะนำจากไกด์คนเกาหลี


ขนมปังกะเทียม คืออร่อยจริงจังมาก ไกด์เองก็ซื้อมากินด้วยน่ะ ขนมอย่างอื่นก็น่ากินทั้งนั้นเลยค่ะ แอบเก็บภาพมาให้ดูบางส่วน


หลังจากเที่ยวหมู่บ้านโพรวองซ์แล้วก็มาชอปปิ้งกันที่ Paju Premium Outlet หลายๆ คนชอปรองเท้าเสื้อผ้ากันเต็มไปหมด ช็อปจนลืมถ่ายรูปที่นี่เลยค่ะ มีแค่ภาพตอนเดินข้ามถนนที่ Paju ที่นี่เป็น Outlet mall แห่งใหม่และใหญ่สุดในเกาหลีใต้ มีร้านค้ามากกว่า 165 ร้าน สินค้าแบรนด์เนมมากมายหลายยี่ห้อเลยค่ะ


ชอปปิ้งกันเสร็จ ก็มาเติมพลังกัน ซึ่งเดินทางมาไม่ไกลเลยค่ะ นิดเดียวก็ถึงร้านอาหารแล้ว


เมื่อท้องอิ่มแล้วก็ขึ้นรถกันเดินทางมาเกาะนามิ เมือง ชุนซอน จังหวัดคังวอน ทางไกด์เตรียมตั๋วให้เรียบร้อยไม่ต้องไปรอซื้อ ซึ่งถ้าเราไม่มีตั๋วต้องมาซื้อจากตรงนี้นะคะ


ทางไกด์เตรียมเอกสารคู่มือเที่ยวเกาะภาษาไทยให้ด้วยค่ะ ดีงามเนอะ เกาะนามิ เป็นเกาะที่มีธรรมชาติงดงาม ซึ่งฮิต และคนนิยมไปเพราะซีรี่ย์ดังเรื่อง Winter Love Song หรือ เพลงรักในสายลมหนาว นั่นเอง ที่เกาะนามิ จะเป็นเกาะที่คนเยอะมากนะคะ คนเกาหลีนิยมไปพักผ่อนซึ่งเมื่อก่อน เป็นเกาะที่ไม่ค่อยมีคนนิยมไปเที่ยว


ยืนเข้าแถวรอเรือเฟอร์รี่มารับ เรือใหญ่ดีค่ะ ใช้เวลาข้ามไปประมาณ 10 นาที คือมาถึงนี่เย็นมาก ๆ ห้าโมงเย็นแล้ว แต่ยังไม่มือนะ แสงกำลังสวย อากาศกำลังเย็นเลยค่ะ มีธงของประเทศไทยด้วย 


ตอนเรือใกล้เทียบท่า เห็นใบไม้ดอกไม้สวยงามไปหมด คือดอกซากุระก็ยังไม่ได้ร่วงโรยไปหมด และใบเมเปิ้ล เหมือนหลงฤดูหรือป่าวก็ไม่รู้ มาเปลี่ยนสีกันตอนนี้อีก สวยงามมาก ๆ ค่ะ อากาศก็เย็น บรรยากาศดี๊ดี


มาถึงไกด์ก็รวมตัวและยังไม่ให้ไปไหนนะคะ ต้องเดินไปจุดที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดก่อน คือจุดหลัก ๆ ของเกาะที่เขานิยมมาถ่ายรูปกันนั่นเอง เดินไกลพอสมควร คนอื่นเดินกันชิว ๆ แต่คุณแม่บอกว่า ไกลจัง 5555


เย้ๆ ถึงแล้วจุดสำคัญที่มาแล้วห้ามพลาด รูปปั้นของ Bae Yong Joon กับ Choi Ji Woo นั่นเอง


ที่เกาะนามิ จะมีต้นส้นเยอะมาก ปลูกไว้เป็นระเบียบ เป็นแถวสวยงามค่ะ คนนิยมไปถ่ายภาพกันเยอะเลยค่ะ


เนื่องจากก่อนหน้าที่จะไปเกาหลี มีฝนตกมาหลายวัน ดอกซากุระก็เริ่มมีใบแซมขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ดอกยังไม่ร่วงโรย ยังรอให้เราไปยลโฉมกัน


ตรงจุดนี้ก็สวยนะคะ ห้ามพลาดอีกเช่นกัน


ถ้าต้นสนใบเยอะ ๆ คงสวยเนอะ


เมื่อย ๆ ก็มานั่งกินลมชมวิวตรงนี้ สักพัก


นั่งถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ก็ต้องเช็คเวลาตลอดนะคะ ควรไปให้ตรงเวลาที่ไกด์นัดรวมตัว หรือไปก่อนก็ได้ จะได้ไม่กินเวลาคนอื่น เรามากันเป็นส่วนรวม ต้องรักษาเวลา และ วินัยหน่อย การเที่ยวได้สนุกมากขึ้น


ตอนแรกเห็นมีคนขายของอยู่ตรงนี้ พอเดินมาอีกที เก็บร้านไปแล้ว อดกินเลย มันโถ



ถึงเวลาแล้วก็นั่งเรือเฟอร์รี่กลับ แล้วก็ไปรับประทานอาหารมื้อค่ำ ซึ่งไม่ไกลจากเกาะนามิเลย ใกล้มาก ๆ อาหารอร่อยสุด ๆ เป็นมื้อแรกที่เห็นแม่กินอาหารค่ำได้เยอะขนาดนี้ ปกติอยู่บ้านแม่กินอาหารน้อยมาก ๆ ดีใจแม่กินได้ ตอนแรกกลัวจะกินอาหารที่นี่ไม่ได้เลยด้วยแหละ เพราะแม่ก็กินยากอยู่ อาหารมื้อนี้แม่บอกอร่อยดี เขาจะใส่ของไว้รอเราแล้วน่ะ มาถึงก็เอาไก่มาใส่ และก็ใส่ซอสไรไม่รู้น่ะ ผัด ๆ สักพักค่อยเอามากิน ดีงามสุด ๆ  กิมจิ กับ ซุปสาหร่าย ที่นี่ อร่อยมากค่ะ กิมจิมีให้กินทุกมื้อ อร่อยกว่ากิมจิไทยมากมาย และน้ำที่นี่เย็นอยู่แล้ว เลยไม่ได้พึ่งน้ำเย็นสักเท่าไหร่


ณ ตอนนี้ เวลาจะ ห้าทุ่มแล้ว อากาศหนาวมาก ๆ หลาย  ๆ คนเริ่มเพลีย จากการเดินทางและง่วงนอน แต่ทางไกด์ก็อยากให้ไปให้ครบตามที่เขาแจ้งมาว่า แต่ละวันเที่ยวที่ไหนบ้าง แต่มันไม่ใช่ไง มันดึง มันหนาว มือสั่นมาก กดชัตเตอร์ไม่ไหว แสงไม่พอ เบลอไปหมดเลยค่ะ แต่พี่เขาดีน่ะ เขาพาเที่ยวจนครบจริง ๆ แต่เราเองควรรักษาเวลาไง ตอนอยู่สนามบินอ่ะ เสียเวลาไปเยอะ มันเลยล่าช้าไป


อากาศดี๊ดี หนาว ๆ ฟ้าสวย ดาวเต็มฟ้า ล้อมด้วยภูเขา คือถ้าไม่หนาวมากน่ะ อยากอยู่ตรงนี้นาน ๆ เลยแหละ ฟินสุด ๆ วัดวาวูจองซา (Waujeongsa Temple) วันตั้งอยู่เมืองยงอิน จังหวัดเคียงคีโด วัดสร้างในปี 1970 โดยนักบวชชื่อ แฮด็อก เพื่อแสดงการตอบแทนความเมตตากรุณาของพระพุทธเจ้าในการรวมประเทศภายในมีรูปสลักสะสมจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลกมากกว่า 3,000 ชิ้น พระเศียรของพระพุทธเจ้ามีความสูง 8 เมตรนี้ เป็นเอกลักษณ์ของวัด ตั้งอยู่หน้าประตูทางเข้าวัด และได้บันทึกลงกินเนสบุ๊ค ว่า เป็นรูปสลักที่ทำจากไม้มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก 


เขามีเทียนจำหน่าย ให้เขียนชื่อเราลงไปก่อนจุดค่ะ แท่งละ 200 บาทไทย


เขียนแล้วก็จุดไปใส่ไว้ในตู้นะคะ ที่นี่ลงแรงมาก เขามีที่เก็บเทียนได้ดีเลยค่ะ

จบทริปวันแรกแล้วนะคะ ขอบอกว่าเหนื่อยสุด ๆ เพลียร่างมาก ๆ โรงแรมคืนแรกแอบสยองนิดหน่อย ไม่กล้าถ่ายรูปมาอวดเลย  เดี๋ยววันที่สองในการเที่ยว จะรีบมาอัพเดทนะคะ ไปนอนก่อนล่ะ บาย


Follow or Contact me 
 Facebook   : Aum Bellezza
❀ Instagram ❀ aum_bellezza
❀ Website  www.aumbellezza.com www.sanook.com
❀ Blog ❀ : aumbellezza.blogspot.com
❀ E-mail ❀ : aumbellezza@gmail.com 

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น

Popular Posts

Like us on Facebook

Flickr Images